Pages

Saturday, August 29, 2020

ก.ต.ช. เสนอชื่อ "บิ๊กปั๊ด" นั่งเก้าอี้ "พิทักษ์1" - ไทยรัฐ

layaknaik.blogspot.com

ตลอดเวลากว่า 5 ปี บนเก้าอี้ ผบ.ตร. “บิ๊กแป๊ะ” เพื่อนร่วมรุ่น นรต.36 และเตรียมทหารรุ่น 20 ของ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. พล.ต.อ.สุวัฒน์ร่วมทีมทำงานสืบสวนคลี่คลายคดี ได้รับความไว้วางใจจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ อยู่ในตำแหน่งสำคัญ รอง ผบช.น. ผบช.ส. ผบช.ภ.1 จนเป็น ผู้ช่วย ผบ.ตร.และรอง ผบ.ตร.

ผบ.ตร.มอบหมายให้รับผิดชอบงานด้านความมั่นคงและงานสืบสวนคดีสำคัญ ซึ่งจะต้องรายงานความคืบหน้าและรับงานสำคัญที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้เข้ามาดูแลปัญหาหลายด้าน

เท่ากับ “บิ๊กแป๊ะ” วางสายต่อขั้วให้เพื่อนเข้าถึงผู้มีอำนาจด้วยผลงานหลายเรื่อง แต่ด้วยบุคลิกปกติที่เงียบ นิ่ง พูดน้อยตรงไปตรงมา ต่างจากเวลาลงพื้นที่ทำงานติดตามคดีที่เกาะติดลงลึกรายละเอียดทุกขั้นตอน เป็นจุดที่ทำให้ “คนนอก” ไม่ค่อยชอบ เพราะกลัวว่าสั่งซ้ายขวาไม่ได้ ทำให้เสนอชื่อคนมาเบียด

ช่วงแรกชื่อ “บิ๊กนู” พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร. นรต.รุ่น 38 รับผิดชอบงานบริหาร ที่ถูกปล่อยข่าวว่าเป็นนายตำรวจมาแรงเหนือกว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ที่มีแค่ผลงานเป็นตัวสอดแทรก ทำให้เกิดกระแสป่วน

จนมามีสถานการณ์เคลื่อนไหวทางการเมืองของ คณะประชาชน “ปลดแอก” ชุมนุมขับไล่รัฐบาล เป็นสถานการณ์ที่สุ่มเสี่ยง รัฐบาลจำเป็นต้องได้ ผบ.ตร.ที่มีประสบการณ์สืบสวน และชำนาญงานข่าวมาควบคุมสถานการณ์ไม่ให้ลุกลามบานปลาย เป็นปัจจัยสำคัญในการแต่งตั้ง ผบ.ตร. ชื่อ พล.ต.อ.สุวัฒน์ โดดเด่นขึ้นมา

พล.ต.อ.สุวัฒน์ใช้งานข่าว การบังคับใช้กฎหมาย ควบคุมสถานการณ์ ไม่ให้เป็น “เงื่อนไข” ของกลุ่มผู้ชุมนุมที่ยั่วยุให้เกิดความรุนแรง ใช้การสืบสวน รวบรวมหลักฐานทุกทางดำเนินคดีกับกลุ่มแกนนำที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ขออนุมัติหมายจับศาล ไม่เร่งรีบจับกุมแกนนำที่มีมวลชนหนุนหลัง ทยอยจับกุมแกนนำส่งศาลดำเนินคดี

ยึดขั้นตอนของกฎหมาย ไม่เลือกข้างเลือกฝ่าย ผู้ชุมนุมใช้เป็นเงื่อนไขจุดม็อบไม่ได้เต็มที่ เป็นทางออกที่ดีที่สุดสถานการณ์บ้านเมืองไทย

อาจไม่ถูกใจคนบางกลุ่มที่ต้องการให้จับกุมดำเนินคดีแกนนำเด็ดขาด จึงมีชื่อ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. รับผิดชอบงานสืบสวนและงานปราบปรามยาเสพติด นรต.รุ่น 36 เพื่อนร่วมรุ่น ผบ.ตร. มีชื่อชั้นงานสืบสวนและจุดเด่นที่ทำงาน “ถึงลูกถึงคน” และครองอาวุโสลำดับ 1 มาเป็นตัวเบียดแทน พล.ต.อ.มนู ที่ถนัดงานบริหาร ไม่สอดรับสถานการณ์ปัจจุบัน

จนนายกฯนัดประชุม ก.ต.ช.วันที่ 28 ส.ค. กระแสข่าว ผบ.ตร.คนใหม่เหมือนยังไม่จบ ชื่อหลักเป็น พล.ต.อ.สุวัฒน์มาตั้งแต่ต้น ตามที่นายกฯและ ผบ.ตร.วางตัวไว้สานงานต่อ แต่ยังมีข่าวปล่อยชื่อ พล.ต.อ.สุชาติเข้ามาเบียดเป็น “ตัวเต็ง” จนทำให้เกิดความสับสนจนประชุม ก.ต.ช.

สุดท้าย นายกฯขอความเห็นชอบ ก.ต.ช. มีมติเลือก พล.ต.อ.สุวัฒน์ เป็น ผบ.ตร. คนที่ 12 ต่อจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ด้วยเนื้องานที่สั่งสมมายาวนาน และเหมาะสมกับตำแหน่ง ผบ.ตร.

สำหรับประวัติ พล.ต.อ. สุวัฒน์ เกิดวันที่ 20 ธ.ค.2504 เกษียณอายุราชการปี 2565 ที่ จ.ฉะเชิงเทรา สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นที่โรงเรียนเซนต์หลุยส์ จ.ฉะเชิงเทรา จบเตรียมทหารรุ่นที่ 20 พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. และนายร้อยตำรวจรุ่น 36 รุ่นเดียวกับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.

รับราชการครั้งแรกเป็นรอง สว.สส. สน.หัวหมาก นายเวร พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ สมัยเป็น ผบก.กองพลาธิการ รอง สว.ผ.3 กก.สส.น.เหนือ บช.น. สว.สส.สภ.เมืองสมุทรปราการ สว.ป.สน.หนองแขม รอง ผกก.สส.บก.น.2 ผกก.สส.บก.น.7 ผกก.สน.ลุมพินี สมัย พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ เป็น ผบ.ตร.รอง ผบก.บก.น.1 บช.น. ผบก.อก.นายตำรวจราช-สำนักประจำ ผบก.น.6 สมัย พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง เป็น ผบช.น.

ผบก.วจ.สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ ผบก.สส.บช.ภ.3 ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธร ภาค 3 : ปี 2555 รอง ผบช.สยศ.รรท.ผบช.สยศ. รรท.ผบก.บก.สส.บช.น. สมัย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา เป็น ผบ.ตร. ก่อนขยับเป็นรอง ผบช.น. ติดยศนายพลเป็น ผบช.ส. ทำงานด้านการข่าว ขยับเป็น ผบช.ภ.1 ผู้ช่วย ผบ.ตร.และรอง ผบ.ตร.ที่ถูกวางตัวให้รับผิดชอบงานความมั่นคงและงานสืบสวน เป็นตัวหลักที่รับงานต่อเป็น ผบ.ตร.

ด้วยผลงานทำคดีสำคัญระดับประเทศมานับไม่ถ้วน อาทิ คดีฆาตกรรม 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ที่เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี คดีลอบวางระเบิดศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ และเป็นหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีวางระเบิดป่วนกรุง เหตุ “จ่าคลั่ง” กราดยิงจี้ตัวประกันห้างดังกลางเมืองโคราช

ร่วมปิดคดี “ผอ.กอล์ฟ” จี้ชิงร้านทองห้างลพบุรี ยิงเหยื่อเสียชีวิต 3 ราย ศาลพิพากษาประหารชีวิต

พล.ต.อ.สุวัฒน์เป็นเสมือน ผบ.ตร.เหตุการณ์ ร่วมคลี่คลายคดีสำคัญคู่ “บิ๊กแป๊ะ” เป็นความสง่างาม ของว่าที่ ผบ.ตร.คนใหม่ที่ “โตมาด้วยงาน” เป็นที่ยอมรับและศรัทธาของตำรวจที่เคยร่วมทำงาน

ด้วยแนวคิดที่ว่า “เป็นข้าราชการตำรวจต้องมีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และต้องทำงานเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นที่ตั้ง ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง”

เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดกับสถานการณ์บ้านเมืองเวลานี้.

ทีมข่าวอาชญากรรม

Let's block ads! (Why?)



"นั่ง" - Google News
August 30, 2020 at 05:01AM
https://ift.tt/2QP6W45

ก.ต.ช. เสนอชื่อ "บิ๊กปั๊ด" นั่งเก้าอี้ "พิทักษ์1" - ไทยรัฐ
"นั่ง" - Google News
https://ift.tt/36QWD6y

No comments:

Post a Comment